.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 35,000 จุดในวันพุธ (20 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงไอบีเอ็ม และพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 100 จุด หลังจากบริษัทเน็ตฟลิกซ์เปิดเผยจำนวนสมาชิกทั่วโลกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,160.79 จุด เพิ่มขึ้น 249.59 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,459.45 จุด ลดลง 2.76 จุด หรือ -0.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,453.07 จุด ลดลง 166.59 จุด หรือ -1.22%

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และกลับมายืนที่เหนือระดับ  35,000 จุดได้อีกครั้ง โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้

 

หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) พุ่งขึ้น 2.66% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ 1.33 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.29 ดอลลาร์ เนื่องจากการปรับขึ้นราคาสินค้าได้ช่วยชดเชยผลกระทบจากต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขนส่ง

 

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ P&G ช่วยหนุนหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่มสินค้าผู้บริโภค โดยหุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ดีดขึ้น 0.93% หุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ พุ่งขึ้น 1.74% หุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล ปรับตัวขึ้น 0.39% หุ้นเป๊ปซี่โค โค พุ่งขึ้น 1.49%

 

หุ้นไอบีเอ็ม พุ่งขึ้น 7.04% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 1.4 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.38 ดอลลาร์ โดยไอบีเอ็มยืนยันว่า ผลประกอบการของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจระงับการทำธุรกิจในรัสเซีย

 

หุ้นกลุ่มสายการบินยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ศาลแขวงรัฐฟลอริดามีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งการสวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบินและระบบขนส่งสาธารณะ โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 1.24%, หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปรับตัวขึ้น 1.16%, หุ้นเจ็ตบลู แอร์เวย์ส เพิ่มขึ้น 0.15% หุ้นอลาสก้า แอร์ กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 0.72%

 

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ ปรับตัวขึ้น 0.80% หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส พุ่งขึ้น 4.11% หุ้นอาร์มาดา ฮอฟเฟอร์ พร็อพเพอร์ตีส์ ดีดขึ้น 1.52%

 

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 100 จุด หลังจากบริษัทเน็ตฟลิกซ์เปิดเผยจำนวนสมาชิกทั่วโลกลดลง 200,000 รายในไตรมาส 1/2565 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี และคาดว่าจำนวนสมาชิกอาจจะลดลงมากถึง 2 ล้านรายในไตรมาส 2

 

รายงานดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ปิดตลาดทรุดตัวลง 35.12% และฉุดหุ้นบริษัทสตรีมมิ่งรายอื่น ๆ ร่วงลงด้วย โดยหุ้นหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ดิ่งลง 5.56% หุ้นดิสคัฟเวอร์รี ร่วงลง 6.04% หุ้นสปอติฟาย ดิ่งลง 10.71%

 

หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 3.84% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ 15 เซนต์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 19 เซนต์ อันเนื่องมาจากภาวะตลาดพลังงานที่ผันผวน และปัญหาคอขวดด้านอุปทาน

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.7% สู่ระดับ 5.77 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.80 ล้านยูนิต จากระดับ 5.93 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. โดยยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้านและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์